ผักพื้นบ้าน
ผักพื้นบ้าน คือ พืชผักที่ปลูกและรับประทานกันมานานในท้องถิ่นของแต่ละภาค ผักพื้นบ้านส่วนใหญ่มีรสชาติอร่อย อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ และยังมีสรรพคุณทางยาอีกด้วย ผักพื้นบ้าน ในประเทศไทยสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้
- ผักกินใบ เช่น ผักโขม ผักบุ้ง ผักกาดหอม ใบบัวบก ชะพลู ผักชี โหระพา ผักชีฝรั่ง เป็นต้น
- ผักกินยอด เช่น สะเดา มะกอก มะขาม มะรุม ผักแพว ผักกูด ผักปลัง ผักแว่น เป็นต้น
ผักพื้นบ้านมีกี่ประเภท
ผักพื้นบ้านในประเทศไทยมีมากมายหลายชนิด แต่ละชนิดมีชื่อเรียกและลักษณะแตกต่างกันไป ผักพื้นบ้านที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไปในประเทศไทย ได้แก่
- ผักกินใบ เช่น ผักโขม ผักบุ้ง ผักกาดหอม ใบบัวบก ชะพลู ผักชี โหระพา ผักชีฝรั่ง เป็นต้น
- ผักกินยอด เช่น สะเดา มะกอก มะขาม มะรุม ผักแพว ผักกูด ผักปลัง ผักแว่น เป็นต้น
- ผักกินผล เช่น มะเขือ มะเขือเทศ มะละกอ มะละกอแขก มะเฟือง มะม่วง มะปราง มะขามเทศ เป็นต้น
- ผักกินหัว เช่น หัวไชเท้า หัวแครอท หัวผักกาดขาว หัวผักกาดหวาน หัวมันฝรั่ง หัวหอม หัวกระเทียม เป็นต้น
- ผักกินดอก เช่น ดอกกะหล่ำดอก ดอกขจร ดอกแค ดอกผักกาดหอม ดอกดาวเรือง ดอกแคทลียา เป็นต้น
- ผักกินเมล็ด เช่น ถั่วเขียว ถั่วแดง ถั่วเหลือง ถั่วดำ ถั่วขาว ถั่วลิสง ถั่วฝักยาว เป็นต้น
- ผักกินเห็ด เช่น เห็ดโคน เห็ดหอม เห็ดหูหนู เห็ดนางฟ้า เห็ดนางรม เห็ดฟาง เป็นต้น
ประโยชน์ของผัก
ผักพื้นบ้านมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย ดังนี้
- เป็นแหล่งอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ผักพื้นบ้านส่วนใหญ่มีรสชาติอร่อย อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ ทั้งวิตามิน แร่ธาตุ ใยอาหาร และสารต้านอนุมูลอิสระ
- ช่วยป้องกันโรคต่างๆ ผักพื้นบ้านบางชนิดมีสรรพคุณทางยาที่ช่วยป้องกันโรคต่างๆ เช่น มะรุม ช่วยบำรุงร่างกาย รักษาโรคเบาหวานและโรคมะเร็ง สะเดา ช่วยขับเสมหะ แก้ท้องร่วง มะแว้ง ช่วยบำรุงโลหิตและบำรุงสายตา
- ช่วยลดน้ำหนัก ผักพื้นบ้านมีปริมาณแคลอรีต่ำและมีใยอาหารสูง จึงช่วยทำให้รู้สึกอิ่มเร็วและนาน ทำให้สามารถควบคุมน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ช่วยบำรุงผิวพรรณ ผักพื้นบ้านบางชนิดมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะและอนุมูลอิสระ จึงช่วยให้ผิวพรรณดูสดใสและอ่อนเยาว์
วิธีปลูกผักพื้นบ้าน
ผักพื้นบ้านส่วนใหญ่เป็นพืชที่ปลูกง่าย เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนปนทรายที่มีความชื้นพอเหมาะ วิธีการปลูกผักพื้นบ้านมีดังนี้
- เตรียมดิน โดยยกร่องและพรวนดินให้ร่วนซุย จากนั้นใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงไป
- หว่านเมล็ด โดยหว่านเมล็ดให้ห่างกันประมาณ 2-3 เซนติเมตร
- รดน้ำ ให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอ ต้องคอยหมั่นดูแลพืช
- ใส่ปุ๋ย ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักเดือนละครั้ง
- กำจัดวัชพืช กำจัดวัชพืชที่ขึ้นบริเวณแปลงผักออก
- เก็บเกี่ยว เมื่อผักเจริญเติบโตเต็มที่ สามารถเก็บเกี่ยวได้
เครดิต : https://kitchen-gardenth.com/